สำหรับใครที่หลงใหลในเสน่ห์ของสัตว์เลื้อยคลาน “เครามังกร” (Bearded Dragon) หรือที่รู้จักกันในชื่อ “กิ้งก่าเครา” ถือเป็นหนึ่งในตัวเลือกอันดับต้นๆ สำหรับผู้ที่อยากเริ่มต้น ด้วยนิสัยที่แสนเชื่องและหน้าตาที่เป็นเอกลักษณ์ วันนี้ เรา จะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับเพื่อนสุดเท่ชนิดนี้ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ตั้งแต่ลักษณะนิสัยไปจนถึงวิธีดูแลที่ถูกต้อง เพื่อให้มังกรน้อยของเราเติบโตอย่างแข็งแรงและมีความสุขครับ
ลักษณะและนิสัย: “มังกรย่อส่วน” ผู้อ่อนโยน
เครามังกร (Pogona vitticeps) เป็นกิ้งก่าที่มีถิ่นกำเนิดจากทะเลทรายในออสเตรเลีย ชื่อของพวกเขามาจากแผงหนามใต้คางที่สามารถพองออกให้ดูเหมือน “เครา” ได้
- ลักษณะเด่น: เป็นกิ้งก่าขนาดกลาง โตเต็มวัยยาวได้ถึง 16-24 นิ้ว มีอายุขัยเฉลี่ย 8-12 ปี พวกเขามีสีสันหลากหลาย ตั้งแต่สีน้ำตาลทรายไปจนถึงสีส้มแดงสดใส ขึ้นอยู่กับการพัฒนาสายพันธุ์
- นิสัย: เชื่องมาก! นี่คือจุดเด่นที่สุดที่ทำให้เครามังกรเป็นที่รัก พวกเขาเป็นกิ้งก่าที่สงบนิ่ง อดทนต่อการสัมผัสได้ดี และไม่ค่อยแสดงอาการก้าวร้าว ทำให้สามารถนำมาอุ้มเล่นและสร้างความคุ้นเคยได้ง่าย
- ภาษากาย: พวกเขามีวิธีสื่อสารที่น่าสนใจ เช่น การผงกหัว (Head Bobbing) เพื่อแสดงความโดดเด่นหรือความเป็นใหญ่ และ การโบกแขนช้าๆ (Arm Waving) เพื่อแสดงการยอมแพ้หรือทักทาย
วิธีดูแล: สร้างทะเลทรายจำลองในบ้าน
การจะเลี้ยงเครามังกรให้สุขภาพดีนั้น เราต้องจัดสภาพแวดล้อมให้ใกล้เคียงกับธรรมชาติของเขามากที่สุด
1. ที่อยู่อาศัย (Terrarium)
- ขนาด: สำหรับลูกกิ้งก่า สามารถเริ่มที่ตู้ขนาด 24 นิ้วได้ แต่เมื่อโตเต็มวัย จำเป็นต้องใช้ตู้ขนาดใหญ่อย่างน้อย 36-48 นิ้ว เพื่อให้มีพื้นที่เพียงพอ
- วัสดุรองพื้น: สำหรับ ลูกกิ้งก่า ควรใช้ กระดาษหนังสือพิมพ์ หรือแผ่นรองสำหรับสัตว์เลื้อยคลาน เพื่อป้องกันการกินวัสดุรองพื้นเข้าไป หลีกเลี่ยงการใช้ทราย จนกว่าจะโตเต็มวัย
- ของตกแต่ง: ควรมี ขอนไม้หรือหิน สำหรับปีนป่าย และ ที่ซ่อนตัว (Hide Box) เพื่อให้รู้สึกปลอดภัย
2. แสงสว่างและความร้อน (สำคัญที่สุด!)
เครามังกรเป็นสัตว์เลือดเย็นและต้องการปัจจัยเหล่านี้เพื่อการดำรงชีวิต
- หลอดไฟ UVB: จำเป็นอย่างยิ่ง! พวกเขาต้องการรังสี UVB เพื่อสังเคราะห์วิตามิน D3 ซึ่งใช้ในการดูดซึมแคลเซียม ป้องกันโรคกระดูกอ่อน (MBD) ต้องใช้หลอด UVB 10.0 เปิดเป็นเวลา 10-12 ชั่วโมงต่อวัน และควรเปลี่ยนใหม่ทุก 6-12 เดือน
- หลอดไฟให้ความร้อน: ต้องมีจุดอาบแดด (Basking Spot) ที่มีอุณหภูมิประมาณ 38-42 องศาเซลเซียส เพื่อใช้ในการย่อยอาหาร ส่วนอุณหภูมิฝั่งเย็นของตู้ควรอยู่ที่ 24-28 องศาเซลเซียส
3. อาหารและน้ำ
เครามังกรเป็นสัตว์กินทั้งพืชและสัตว์ (Omnivore) ซึ่งสัดส่วนอาหารจะเปลี่ยนไปตามวัย
- ลูกกิ้งก่า (ไม่เกิน 1 ปี): ต้องการโปรตีนสูง สัดส่วนอาหารควรเป็น แมลง 80% และผัก 20%
- ตัวเต็มวัย (1 ปีขึ้นไป): ต้องการไฟเบอร์มากขึ้น สัดส่วนจะกลับกันเป็น ผัก 80% และแมลง 20%
- เมนูอาหาร:
- แมลง: จิ้งหรีด, แมลงสาบดูเบีย (ขนาดต้องไม่ใหญ่กว่าความกว้างระหว่างตา)
- ผัก: กวางตุ้ง, คะน้า, ใบมัสตาร์ด, ฟักทอง, แครอทขูด
- อาหารเสริม: ต้องคลุกแคลเซียม (แบบมี D3) กับแมลงทุกครั้ง ก่อนให้กิน และควรเสริมวิตามินรวมสัปดาห์ละครั้ง
- น้ำ: ควรมีถ้วยน้ำตื้นๆ วางไว้ในตู้ และอาบน้ำอุ่นให้สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง เพื่อช่วยเรื่องความชุ่มชื้นและการขับถ่าย
การเลี้ยงเครามังกรนั้นไม่ยากอย่างที่คิดหากเราเข้าใจความต้องการพื้นฐานของพวกเขา การลงทุนกับอุปกรณ์ที่ถูกต้องในช่วงแรก จะช่วยให้ทาสมังกรเครามีความสุขกับการเฝ้าดูเพื่อนสุดเท่ตัวนี้เติบโตอย่างแข็งแรงและอยู่กับเราไปอีกนานแสนนานครับ