กิ้งก่าเครา การดูแลและข้อควรรู้

“กิ้งก่าเครา” (Bearded Dragon) หรือที่เราเรียกติดปากว่า “เบี๊ยดดราก้อน” นั้น เป็นหนึ่งในกิ้งก่าที่เชื่องและเลี้ยงง่ายที่สุด ทำให้กลายเป็นขวัญใจของผู้ที่อยากเริ่มต้นเข้าสู่โลกของสัตว์เลื้อยคลาน แต่ถึงแม้จะเลี้ยงง่าย ก็ยังมีความต้องการเฉพาะตัวที่ทาสมังกรเคราต้องใส่ใจเป็นพิเศษ วันนี้ เรา ได้สรุปคู่มือ “การดูแลกิ้งก่าเคราและข้อควรรู้” ฉบับเข้าใจง่ายมาให้แล้วครับ

1. การจัดบ้าน (Terrarium)

การสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม คือกุญแจสำคัญที่สุดในการเลี้ยงกิ้งก่าเคราให้แข็งแรง

• ขนาด: สำหรับลูกกิ้งก่า เริ่มต้นที่ตู้ขนาด 24 นิ้ว (ประมาณ 20 แกลลอน) แต่เมื่อโตเต็มวัย จำเป็นต้องมีตู้ขนาดใหญ่อย่างน้อย 36-48 นิ้ว (40 แกลลอนขึ้นไป) เพื่อให้มีพื้นที่เพียงพอ
• วัสดุรองพื้น: สำหรับ ลูกกิ้งก่า ควรใช้ กระดาษหนังสือพิมพ์ หรือแผ่นรองสำหรับสัตว์เลื้อยคลาน เพื่อป้องกันการกินวัสดุรองพื้นเข้าไปอุดตัน หลีกเลี่ยงการใช้ทราย จนกว่าจะโตเต็มวัยและแข็งแรง
• ของตกแต่ง: ควรมี ขอนไม้หรือหิน สำหรับให้ปีนขึ้นไปรับความร้อน และ ที่ซ่อนตัว (Hide Box) เพื่อให้พวกเขารู้สึกปลอดภัย

2. แสงสว่างและความร้อน: ปัจจัยชี้เป็นชี้ตาย

นี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุดและลงทุนเพียงครั้งเดียวให้ถูกต้อง จะช่วยให้มังกรเคราของคุณสุขภาพดีไปตลอดชีวิต

• หลอดไฟ UVB: จำเป็นอย่างยิ่งยวด! กิ้งก่าเคราต้องการรังสี UVB เพื่อสังเคราะห์วิตามิน D3 ซึ่งใช้ในการดูดซึมแคลเซียม หากขาดไปจะทำให้เป็น โรคกระดูกอ่อน (MBD) ซึ่งเป็นโรคร้ายแรง ต้องใช้หลอด UVB 10.0 เปิดทิ้งไว้ 10-12 ชั่วโมงต่อวัน และต้องเปลี่ยนหลอดใหม่ทุกๆ 6-12 เดือน แม้หลอดยังไม่ขาดก็ตาม
• หลอดไฟให้ความร้อน (Basking Light): ต้องมีจุดให้ความร้อนโดยเฉพาะ หรือ “Basking Spot” โดยส่องไฟไปที่ขอนไม้หรือหิน อุณหภูมิบริเวณนี้ควรอยู่ที่ 38-42 องศาเซลเซียส เพื่อให้กิ้งก่ามาย่อยอาหาร
• การไล่ระดับอุณหภูมิ: ตู้เลี้ยงควรมีฝั่งร้อนและฝั่งเย็น โดยอุณหภูมิฝั่งเย็นควรอยู่ที่ประมาณ 24-28 องศาเซลเซียส เพื่อให้กิ้งก่าสามารถเลือกขยับตัวไปมาเพื่อควบคุมอุณหภูมิร่างกายได้

3. อาหารการกิน: สมดุลโปรตีนและผัก

กิ้งก่าเคราเป็นสัตว์กินทั้งพืชและสัตว์ (Omnivore) ซึ่งสัดส่วนอาหารจะเปลี่ยนไปตามวัย

• ลูกกิ้งก่า (อายุไม่เกิน 1 ปี): ต้องการโปรตีนเพื่อการเติบโต สัดส่วนอาหารควรเป็น แมลง 80% และผัก 20%
• กิ้งก่าโตเต็มวัย (อายุ 1 ปีขึ้นไป): ต้องการไฟเบอร์จากพืชมากขึ้น สัดส่วนจะกลับกันเป็น ผัก 80% และแมลง 20%
• เมนูที่เหมาะสม:
  • แมลง: จิ้งหรีด, แมลงสาบดูเบีย, หนอนแว็กซ์ (ให้น้อย) ควรมีขนาดไม่ใหญ่กว่าความกว้างระหว่างตาทั้งสองข้าง
  • ผัก: ผักกวางตุ้ง, คะน้า, ผักกาดโรเมน, ใบมัสตาร์ด, ฟักทอง, แครอทขูด
• อาหารเสริม: ต้องคลุกแคลเซียม (แบบมี D3) กับอาหารประเภทแมลงทุกครั้ง และอาจเสริมวิตามินรวมสัปดาห์ละครั้ง

4. ข้อควรรู้อื่นๆ

• การอาบน้ำ: ควรอาบน้ำอุ่นตื้นๆ ให้กิ้งก่าเคราสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง เพื่อช่วยเรื่องความชุ่มชื้นและการขับถ่าย
• พฤติกรรมการสื่อสาร: การ ผงกหัว (Head Bobbing) คือการแสดงความเป็นใหญ่ ส่วนการ โบกแขนช้าๆ (Arm Waving) คือการยอมแพ้หรือทักทาย
• ความเชื่อง: กิ้งก่าเคราเป็นสัตว์ที่เชื่องและอดทนต่อการสัมผัสได้ดี การอุ้มเล่นบ่อยๆ จะช่วยสร้างความคุ้นเคยได้
• การลอกคราบ: ในช่วงที่กำลังจะลอกคราบ สีตัวอาจจะดูซีดลงและไม่ค่อยกินอาหาร ซึ่งเป็นเรื่องปกติ

การเลี้ยงกิ้งก่าเคราอาจดูมีรายละเอียดในช่วงแรก แต่เมื่อทาสมังกรเคราจัดสภาพแวดล้อมได้ถูกต้องแล้ว พวกเขาคือหนึ่งในสัตว์เลี้ยงที่น่ารัก เชื่อง และสร้างความสุขให้กับผู้เลี้ยงได้อย่างน่ามหัศจรรย์แน่นอนครับ!